ส่องราคา "รถ EV" หลังใช้มาตรการลดภาษีและเงินอุดหนุน แต่ละรุ่นเหลือเท่าไร?'
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศลดอัตราภาษี และการยกเว้นภาษีอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) กรณีรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน แบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่นำเข้ามาทั้งคัน 20% - 40% โดยแบ่งเป็น
1. รถยนต์ไฟฟ้า ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป ที่มีราคาขายปลีกแนะนำไม่เกิน 2 ล้านบาท ให้ได้รับการลดอัตราภาษีอากร หรือยกเว้นภาษีอากร 40%
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ผู้นำเข้า รถ EV ที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระไม่เกิน 40% ให้ได้รับการยกเว้นอากร
ผู้นำเข้า รถ EV ที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระมากกว่า 40% ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงอีก 40%
ผู้นำเข้า รถ EV ที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงเหลือ 40%
2. รถยนต์ไฟฟ้า ราคา 2-7 ล้านบาท
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป ที่มีขนาดตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป และมีราคาขายปลีกแนะนำมากกว่า 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท ให้ได้รับการลดอัตราภาษีอากร หรือยกเว้นภาษีอากร 20%
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ผู้นำเข้า รถ EV ที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระไม่เกิน 20% ให้ได้รับการยกเว้นอากร
ผู้นำเข้า รถ EV ที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระมากกว่า 20% ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงอีก 20%
ผู้นำเข้า รถ EV ที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีให้ได้รับการลดอัตราอากรลงเหลือ 60%
3. รถ EV ได้เงินอุดหนุนเท่าไร? มีเงื่อนไขอย่างไร?
นอกจากนี้ รัฐยังอนุมัติมาตรการให้เงินอุดหนุนให้ผู้ประกอบการที่นำเข้าหรือประกอบรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้ซื้อรถ EV ได้ในราคาถูกลงไปอีก โดยแบ่งกลุ่มราคาเป็น 2 กลุ่ม คือ
ให้เงินอุดหนุน 70,000 บาทต่อคัน สำหรับรถ EV ที่ใช้แบตเตอรี่ตั้งแต่ 10 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป
ให้เงินอุดหนุน 150,000 บาทต่อคัน สำหรับถ EV ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงขึ้นไป
ขอบคุณที่มาแหล่งข่าว : กรุงเทพธุรกิจ
วันที่โพส 2022-11-23